“แตงโม” หน้าบวมจนโดนทัก ไม่สนคนมองเสพติดศัลยกรรม
gclubJoz แอบตกใจอยู่ไม่น้อย เมื่อได้เห็นหน้าของนักแสดงสาว แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ ที่มาปรากฏตัวต่อหน้าสื่อมวลชนด้วยใบหน้าที่ดูจะบวมๆ ผิดปกติ งานนี้จึงไม่พลาดที่จะสอบถามเจ้าตัวถึงสาเหตุว่าที่รูปหน้าต้องเป็นแบบนี้เพราะอะไร
โดย แตงโม นิดา ได้เผยให้ฟังว่า
เพิ่งจะไปฉีดไขมันมา เนื่องจากก่อนนี้ใบหน้าเธอดูตอบลงไปมาก ซึ่งตอนนี้ยังไม่หายดี
ทุกอย่างเลยดูไม่ค่อยเข้าที่เท่าไหร่ พร้อมบอกไม่สนหากคนจะมองเสพติดศัลยกรรม
แต่จุดประสงค์ที่เธอทำนั้น
เพราะอยากเสริมบุคลิกและทำให้ความสวยอยู่กับเธอได้นานที่สุด
ส่วนเรื่องหนุ่มรุ่นน้อง นิก คุณาธิป ความสัมพันธ์ยังเป็นเพียงแค่เพื่อนบ้านใกล้กัน
ซึ่งก็มีไปทานข้าว ดูหนังกันบ้างเป็นเรื่องปกติ
“ที่เห็นบวมๆ แน่นๆ
ก็เพิ่งไปฉีดไขมันมา เพราะว่าก่อนหน้านี้หน้าตอบมาก อันนี้มันยังไม่หายดี
มันอาจจะยังไม่เข้าที่ คงต้องใช้เวลาอีกซักประมาณเดือนหนึ่ง
แต่โมก็ไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้องหมกตัวอยู่ที่บ้าน”
มีผลกระทบต่องานที่เราถ่ายอยู่ไหม ?
“เวลาไปถ่ายละคร หน้าก็อาจจะมีโดดบ้างในบางซีน ซีนหนึ่งหน้าตอบ
อีกซีนหนึ่งหน้าบวม แต่ก็พยายามบอกพี่ผู้กำกับว่าให้รับหน้าข้างที่บวมน้อยหน่อย
ก็ราบรื่นดีในการทำงาน แล้วทุกคนก็เข้าใจว่าระยะยาวแล้วมันคุ้มกว่า”
ทุกวันนี้คนรับได้เรื่องทำศัลยกรรม ?
“สมัยนี้ก็ค่อนข้างจะเปิดกว้าง แต่ถ้ามันเกินกำลังก็ยังไม่แนะนำ
แต่คนที่ทำงานในวงการบันเทิงเอาจริงๆ แนะนำนะ
มันเป็นการเสริมบุคลิกและเพิ่มความมั่นใจ
เราอยู่ตรงนี้ถ้ามีข้อบกพร่องเราก็นอยด์แล้ว
โมก็เลยตัดสินใจว่าโมจะยืดอายุตัวเองไปเรื่อยๆ จนเลข 4”
คนมองเราเสพติดศัลยกรรมไปแล้ว ?
“ถ้าคนจะใช้คำไหนก็แล้วแต่เลย โมไม่ซีเรียส
แต่จุดประสงค์ของเราเองก็เพื่อยืดอายุการใช้งาน โมไม่ยอมแก่
ถามว่าเสพติดศัลยกรรมไหม โมทำศัลยกรรมก็อาจจะเรียกว่าเสพติดศัลยกรรม
แต่ถ้าโมทำอย่างอื่นด้วย เราก็เสพติดอย่างอื่นด้วย เช่น ความรู้โมก็หาใส่ตัว
เราก็เสพติดความรู้ด้วยเช่นกัน”
มีลิมิตของตัวเองไหม ?
“ลิมิตของโมคือทำยังไงก็ได้ให้มันคงเดิม ไม่เพิ่มขึ้น
และอยู่ในคำว่ายังสวยงามอยู่”
ที่เราอยากเด็กเพราะไม่ได้มีแฟนเด็ก ?
“เด็กตอนนี้ก็ 2 ขวบ เลี้ยงง่าย
เข้าโรงเรียนแล้ว อึดมากเลย ร้องไห้แค่ไม่กี่วัน ตอนแรกคิดว่าจะร้องไปเป็นปี
ตอนนี้บ๊ายบายแล้ว”
เด็กผู้ชายดีไหม ?
“อีสเตอร์ยังไม่มีผู้ชายเข้ามาจีบนะ”
งั้นระบุชื่อเลย นิก คุณาธิป ?
“ใครอ่ะ”
เห็นเพิ่งลงรูปคู่กัน ?
“เพื่อนบ้านกัน บ้านอยู่ใกล้กัน”
ไปสัมภาษณ์เขา เขาถ่อมตัวมากว่าเราจะเอาเขาเหรอ ?
“เหรอ”
สรุปเป็นแฟนกันไหม ?
“Happy April fools' day ค่ะ จบข่าว”
เขาพยายามจีบไหม ?
“ไม่นะ เราส่งข้าว ส่งน้ำกันเฉยๆ”
ให้สถานะคืออะไร ?
“เพื่อนบ้าน บ้านใกล้กัน ไปไหนมาไหนกันบ่อย ดูหนังบ้าง กินข้าวบ้าง”
ไปกัน 2 คนได้ใช่ไหม ?
“ได้”
ถามเรื่องต่ายหน่อย ?
“ก็ได้ไปเยี่ยมอีกนะคะ เขาค่อนข้างที่จะต้องใช้เวลานานพอสมควร
เพราะอาการหนัก แต่ก็อย่างที่บอกไปว่าอยู่ในมือหมอแล้วไม่ต้องห่วง
เขาก็คงมีระบบของเขา ฟื้นฟูไปเรื่อยๆ ในเรื่องของสภาพจิตใจและสารเสพติด
ก็ดีขึ้นนะคะตามลำดับ แต่ให้คำตอบไม่ได้ว่าจะออกเมื่อไหร่ จะหายไหม ขึ้นอยู่กับเขาว่าจะให้ความร่วมมือกับคุณหมอมากแค่ไหน”
ช่วยเขายังไงบ้าง ?
“ก็คอยดูการรักษาของเขา
แล้วตอนนี้ก็ยังไม่อยากให้เขาออกจากโรงพยาบาล
ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายทางโรงพยาบาลก็เป็นคนอนุเคราะห์ให้
ตอนนี้ก็เลยยังไม่มีการเปิดรับบริจาค แค่ช่วยเรื่องการเดินทางนิดๆ หน่อยๆ
ของญาติเขา”
เวลาเขาเจอเราเริ่มคุยหรือยัง ?
“เขาคุยเยอะ เอาจริงๆ เขาก็คุยได้ปกติ แต่เขาค่อนข้างจะพลังเยอะ
เป็นคนไม่ค่อยอยู่นิ่ง แล้วเขาก็อยากออก อยู่ในนั้นเขาเหงา ไม่มีเพื่อน
แต่ก็อธิบายให้เขาฟังว่าถ้าทานยาสม่ำเสมอก็ได้ออกแล้ว”
ตั้งใจช่วยเขาถึงที่สุด ?
“ใช่ ก็จะขอดูแลเรื่องการรักษา จนถึงที่สุด
จนกว่าญาติเขาและตัวเขาไม่เอาเรา”
แต่ญาติเหมือนอยากให้ออก ?
“ก็ไม่รู้ว่าเขาคุยกันยังไง
แต่เขาก็ยังบอกโมอยู่เลยว่าหาที่ทางให้ต่ายอยู่ลำบาก ยังอยากให้อยู่โรงพยาบาล
แต่โมก็ได้ยินมาอีกเสียงว่าอยากให้ออกแล้ว แต่พอไปถามเขาก็ยังไม่อยากให้ออกนะ
เขาบอกว่าอยู่ตรงนั้นมันปลอดภัย กลัวออกมาแล้วจะเร่ร่อนเหมือนเดิม”
ยังห่วงอะไรไหม ?
“ยังห่วงเรื่องความดื้อเขา คือเขาติดความเป็นเด็ก ยังงอแงอยู่
ยังไม่ให้ความร่วมมือกับคุณหมอต้องคอยกล่อมเขา”
เขายังอยากเล่นละครไหม ?
“อยากๆ เขายังอยากแต่งตัวสวยงาม ถ้าออกมาช่วยได้ก็จะช่วยเต็มที่
แต่ขอให้อยู่บนพื้นฐานที่ส่งผลดีต่อเขา”
ขอขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น