"เอ เชิญยิ้ม" เปิดใจชีวิตสุดรันทด ต้องหาเศษอาหารกินประทังความหิว
gclubJoz เป็นอีกหนึ่งคนที่สามารถสร้างเสียงหัวเราะให้แฟนๆ ทั้งประเทศ สำหรับ เอ เชิญยิ้ม แต่ในชีวิตจริงของเขากว่าจะมีชื่อเสียงอย่างเช่นทุกวันนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ ต้องทำงานมาแล้วหลายอย่างหนักสุดถึงขั้นไปกินของเหลือจากคนอื่น ล่าสุด เอ เชิญยิ้ม ได้มาเปิดใจผ่านทางรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง ONE31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ และ เป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร
ชีวิตวัยเด็กเป็นยังไง?
เอ : "เป็นเด็กบ้านแตก คือคุณพ่อกับคุณแม่แยกทางกัน ตั้งแต่ผม 3 ขวบ ผมก็อยู่กับคุณพ่อมาตลอด ตอนเด็กๆ ก็มีคำถามเหมือนกันว่าแม่ไปไหน
แต่พ่อก็ไม่ได้บอกให้เราเกลียดแม่ พ่อบอกว่ามีเหตุผลของผู้ใหญ่ที่ทำให้ไม่สามารถร่วมชีวิตกันได้
เราก็เข้าใจอยู่กับพ่อมาตลอดโดยที่คุณพ่อไม่มีภรรยาใหม่เลย"
เคยถามพ่อไหมว่าทำไมแม่ถึงไป
ปกติลูกจะอยู่กับแม่ แต่เราอยู่กัรบพ่อ เพราะอะไร?
เอ : "คุณพ่อถึงกับหอบลูกหนีในช่วงที่แยกกัน ต่างคนต่างแย่งลูก พ่อก็หอบลูกหนีไปอยู่ต่างจังหวัดไปอยู่ในที่ที่แม่ไม่สามารถตามได้"
เคยเจอคุณแม่บ้างไหม?
เอ : "เคยเจอเมื่อ 20 ปีที่แล้ว
แล้วตอนนี้แม่ก็เสียชีวิตไปแล้ว"
เห็นว่ามีช่วงที่คุณพ่อตกงาน
ช่วงนั้นเป็นยังไงบ้าง?
เอ : "คุณพ่อก็เปลี่ยนอาชีพจากตลกไปขายของ ไปขายลูกชิ้น ทำหลายๆ
อย่างเพื่อหาเงินเลี้ยงลูก ใชช่วงที่ลำบาก ไม่มีเงินจริงๆ
เราก็ดิ้นรนไปขายเรียงเบอร์ตามตลาดสด ตอนนั้นฐานะทางบ้านยากจน ลำบาก"
เริ่มทำงานตั้งแต่อายุเท่าไหร่?
เอ : "ประมาณ 9 ขวบ ตามคุณพ่อไปคาเฟ่ ละขึ้นเวทีเล่นตลก
เมื่อก่อนเพื่อนพาไปไหนก็ทำหมดเพื่อให้ได้เงิน
คือเงินจะซื้อขนมกินในบางวันมันไม่มี
เชื่อไหมน้ำอัดลมในยุคนั้นเดือนนึงนับครั้งได้ว่าจะกินได้กี่ครั้ง"
จำได้ไหมความรู้สึกหดหู่กับอาชีพที่เราได้ทำตอนเด็กคืออาชีพอะไร?
เอ : "มันไม่มีนะ มันรู้สึกสนุกกับสิ่งที่ทำ
ไม่ได้รู้สึดรันทดหรือหดหู่อะไร"
เห็นว่าอยากทานอาหารฟาดฟู้ดด้วย?
เอ : "มันเป็นช่วงตกงาน เราไปหางานห้างแถวบางกะปิ
มันเป็นช่วงผลัดเปลี่ยนว่าเราจะเลือกทางไหน คือผมเล่นตลกตั้งแต่เด็กๆ
พอถึงช่วงสิบกว่าขวบก็มีโอกาสไปทำงานกลางวัน
แล้วเราก็ไปหางานแถวฟาดฟู้ดในห้างนั้นแล้วหิวข้าวไม่มีข้าวกิน เงินก็ไม่มี
ก็ยืนมองคนที่เขากิน เขาทานเสร็จเขาก็ลุกไป เราก็มองซ้าย มองขวา เราก็ไปนั่งกิน
ทีนี้ทางผู้จัดการเขามาเห็นเราก็บอกว่าเราไม่มีงานทำ"
อายไหมตอนเขามาเห็น?
เอ : "คือก่อนหน้านั้นเราขึ้นไปสมัคร แล้วเขาจำเราได้ ก็ปรากฏว่าได้ทำงานนั้น
ก็ได้เป็นพนักงานเก็บจาน
ซึ่งทำงานช่วงแรกยังไม่มีเงินเดือนมื้อกลางวันก็อาศัยตรงนี้"
เรารู้สึกน้อยใจในโชคชะตาบ้างไหม?
เอ : "ไม่ครับ ณ ช่วงเวลานั้นเราต้องเอาตัวเองให้รอด
พอเงินเดือนเราออกเราก็มีเงินต่อชีวิตในเดือนต่อๆ ไป
แต่ที่เก็บอาหารทานไม่ได้ทำตลอดนะ ทำแค่ช่วงแรกตอนที่ไม่มีเงินเท่านั้น
ถามว่าเพื่อนล้อไหม ไม่ครับเพราะเราไม่ทำให้คนอื่นเห็น
แอบใส่ถุงแอบไปกินในห้องน้ำ"
ด้วยความขยันเห็นบอกว่าหลังจากเก็บจานก็ได้เลื่อนตำแหน่งมาเรื่อยๆ
จนเป็นผู้จัดการ?
เอ : "ยังไม่ถึงขั้นผู้จัดการ จากเก็บจานได้สักพักนึงก็ไปเก็บรถเข็นอยู่ลานจอดรถ
จากนั้นก็เลื่อนขั้นมาเป็นแพคกิ้ง ตอนนั้นเงินเดือนออก 2 ครั้ง
ครั้งละ 2 พันกว่าบาท เดือนนึงก็ได้ สี่พันกว่าบาท
ถามว่าพอไหมช่วงนั้นมันก็สิบกว่าขวบคิดว่าเยอะแล้ว จากนั้นก็ไปช่วยเขาโฟน
แผนกโปรโมชั่นก็เลยมาเป็นพนักงานโฟนสินค้า เงินเดือนก็เพิ่มขึ้นนิดหน่อย
แต่ก็ยังอยู่ที่ 4 พันกว่าเหมือนเดิม"
แล้วผกผันมาเป็นตลกอาชีพตั้งแต่เมื่อไหร่?
เอ : "พอมาเป็นพนักงานแผนกโปรโมชั่น ห้างสาขาใหม่กำลังจะเปิด เขาก็บอกว่าถ้าคุณยอมออกจากที่นี่แล้วไปอยู่สาขาต่างจังหวัด
คุณจะได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้า ในช่วงนั้นมีพี่ที่เป็นตลกเขามาชวน
เราก็เลือกระหว่างออกจากงานแล้วไปเล่นตลก
กับย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดเพื่อได้ตำแหน่ง"
ทำไมถึงเลือกไปเล่นตลก?
เอ : "มันเป็นสิ่งที่เรารัก ก็เลยตัดสินใจออกจากงาน
ตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัดสินใจมันถูกหรือผิด
แต่เราคิดว่าการที่เราตัดสินใจมาทำอาชีพตลก
มันคือสิ่งที่เรารักถึงแม้ว่ามันจะลำบากหรือจะประสบความสำเร็จหรือไหมเราไม่รู้
แต่เราได้อยู่กับสิ่งที่เรารัก"
ครั้งแรกที่เข้าคณะตลกคือคณะอะไร?
เอ : "ได้ไปอยู่กับไมเคิ้ล ยิ้ม ตอนนั้นยังไม่ได้ใช้เชิญยิ้ม
แล้วก็มีช่วงที่ผลัดเปลี่ยน ตอนนั้นคือ พี่หนู เชิญยิ้ม มาตั้งคณะ
พี่ไมเคิ้ลก็เลยว่าบอกว่าฝากน้องด้วย ก็ได้เป็นตัวแถมเข้าไปในคณะ"
ณ ตอนนั้น รายได้?
เอ : "รายได้ก็ดีขึ้นมา วันละประมาณ 2 พันกว่าบาท
ตอนนั้นชีวิตเปลี่ยน ผมให้พ่อหยุดทำงานเลยไม่ต้องไปดิ้นรนอะไรเลย
ลูกจะเลี้ยงพ่อเอง"
เห็นว่าโดนพักงาน?
เอ : "ใช่ครับ สาเหตุมาจากผมมีแฟน คือตอนนั้นพี่หนูเขาดูแลผมไม่ใช่แค่ลูกน้อง
ดูแลในลักษณะเหมือนน้องชาย ตอนนั้นก็กลายเป็นเราตกงาน"
ตอนนั้นเลือกความรักไม่เลือกงาน?
เอ : "ใช่ครับ แล้วที่มาคบกับแฟนคนนี้ เพื่อนๆ พี่ๆ
ในคณะเขาก็จะพูดกันว่ามันไปกันไม่รอดหรอก อายุห่างกันตั้ง 11 ปี ก็ไม่คิดว่าผู้หญิงที่เจอวันนั้นจะครองรักกันมาถึง 21 ปี"
เคยโดนล้อไหมว่ามีเมียแก่?
เอ : "มีครับ เวลาเจอเพื่อนเขาก็ถามว่าวันนี้ซื้อหมากให้เมียหรือยัง"
เคยลำบากมาด้วยกันถึงขั้นไหน?
เอ : "ตอนนั้นผมก็ตกงาน ทุนทรัพย์ของภรรยาที่มีมาในช่วงแรกก็ดีอยู่ หลังๆ
มาก็ลำบากอยู่ ช่วงที่มีลูกคนแรก ตลกก็ไปอยู่คณะเล็กลง รายได้ก็น้อยลง
บางทีก็ไม่พอกิน ต้องหาอาชีพเสริม ไปขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง กลางคือเล่นตลก
บางวันรายได้ไม่พอก็ไปเช่าแท็กซี่มาขับ
คือดิ้นรนทุกทางเพื่อมาจุลเจือครอบครัว"
ที่มาร้องเพลงมันเกี่ยวไหมที่งานตลกเราลดลง?
เอ : "ไม่เกี่ยวครับ แต่ว่ามันจะเกี่ยวเหตุผลที่ว่างานทีวีไม่ได้แน่นเหมือนในช่วง 4-5 ปีที่แล้ว
ก็จะมีเวลาว่างบ้างที่จะมาทำงานเพลงหรืองานอื่นๆ
ได้บ้าง"
ขอขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น